Blog categories

Latest posts

คดีลิขสิทธิ์เพลง

ร้านอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม เปิดเพลงคาราโอเกะ ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง

               

                    คดี ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ที่ค่ายเพลงใหญ่ๆ เป็นผู้เสียหาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเสมอ แม้ประชาชน อยากให้กำลังใจ ผู้สร้างสรรค์งานเพลง นักร้อง และค่ายเพลง แต่แผ่นลิขสิทธิ์มักมีราคาขายแพง ทำให้แผ่น mp3 แถวคลองถม บ้านหม้อ เป็นที่นิยม ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาค่ายเพลงใหญ่จึงมอบอำนาจให้ สำนักงานทนายความ และทนายความหลายคนรักษาประโยชน์ของตน โดยให้ร้านอาหารที่มีการเปิดเพลง ต้องทำสัญญาซื้อลิขสิทธิ์เปิดเพลงกับตน   แต่หลายครั้งก็เกิดปัญหา มีข่าวออกมาว่า ตัวแทนค่ายเพลง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทำรุนแรงเกินไป อาศัยความไม่รู้กฎหมายของประชาชน นำจับ เรียกเอาทรัพย์สิน ในอัตราที่สูงเกินควร แลกกับการไม่ดำเนินคดี ในความผิดอันยอมความได้

                    ทีม ทนายความ Thai Law Consult  จึงนำ คำพิพากษาฎีกา 10579/2551 ร้านอาหารเปิดเพลงคาราโอเกะ ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของค่ายเทป ต้องได้ความว่า จำเลยกระทำเพื่อหากำไรโดยตรง จากการให้ลูกค้าในร้านอาหาร ได้ร้องและฟังเพลงของผู้เสียหาย เพื่อประโยชน์ในทางการค้า โดยเรียกเก็บค่าตอบแทน หรือเรียกเก็บรวมไปกับอาหารและเครื่องดื่ม

                    ทำนอง เดียวกับ คำพิพากษาฎีกา 8220/2553 จำเลยประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม จำเลยเปิดแผ่นเพลง “กำลังใจที่เธอไม่รู้ “ อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ซี่งได้มีผู้ทำขึ้น และดัดแปลง ให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยฟัง ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ต้องเป็นกรณีเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้                                                      

          คดีลิขสิทธิ์เพลง

          ข้อเท็จจริงในปี 2555 ทีมทนาย Thai Law Consult ได้ให้คำปรึกษาคดีเปิดเพลงในร้านค้า, ร้านอาหาร ละเมิดลิขสิทธิ์ของค่ายเพลงดังนี้

          1.  คดี เปิดเพลง ตอนเที่ยงวัน ในร้านกาแฟ เพิ่งเปิดใหม่ มีเก้าอี้ 9 ตัว  โต๊ะ 3 ตัว ขณะนั้น ลูกจ้างอยู่ในร้าน มีหญิงสาว 2 คน เข้ามาในร้านและสั่งกาแฟ และขอให้ร้านเปิดเพลง ที่ไม่มีแผ่นซีดีในร้าน ลูกจ้างใจดี จึงไปยืมแผ่นจากเพื่อนมาเปิดให้ฟัง อีก 30 นาทีต่อมา ลูกจ้าง ถูกตัวแทนบริษัทและตำรวจจับ และนำขึ้นรถอ้างจะส่งโรงพัก ระหว่างเอาตัวลูกจ้างขึ้นรถ ตัวแทนค่ายเพลงต่อรองทางโทรศัพท์ให้นายจ้างเจ้าของกาแฟยอมความ 5 หมื่นบาท / คดีนี้พนักงานสอบสวนน่าจะเป็นใจกับทนายความตัวแทนค่ายเทป / แต่คดีจบลงได้ เมื่อทีมงาน TLC ขอร้องให้ท่าน ผกก. ท้องที่เกิดเหตุไกล่เกลีย เลิกแล้วต่อกัน

          2.  คดี ร้านอาหารทะเล ขายเครื่องดื่ม เปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง ตัวแทนค่ายเทปนำจับ ขอให้ชำระค่ายอมความ 10,000 บาท พนักงานสอบสวน ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ยอมความดีกว่าเปิดคดี คดีนี้เจ้าของร้านอาหารทะเล ขอต่อสู้คดีและยอมวางหลักทรัพย์ขอประกันตัวชั่วคราว (บอกทีมทนาย TLC ว่าโกรธมาก ตัวแทนผู้เสียหาย ทำรุนแรงเกินเหตุ)

          3.  คดี ร้านหมูกะทะ ขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอลล์ เปิดเพลง ทนายความผู้รับมอบอำนาจของค่ายเทปนำจับ ทีมทนาย TLC ช่วยไกล่เกลี่ย เถ้าแก่หมูกระทะไม่อยากให้มีปัญหายอมความกัน 10,000 บาท (ตอนแรกเรียก 1 แสน) ปัจจุบันเถ้าแก่หมูกะทะ ได้ทำสัญญาเปิดเพลงกับทุกค่ายเทปแล้ว เพื่อความสบายใจ ในการทำมาหากิน ไม่ต้องวิตกกังวล

          4.  คดี ครูโรงเรียนมัธยม  เจ้าของตู้เพลง 20 ตู้ มีปัญหากับค่ายเพลง คดีจบลงด้วยการยอมความและร่วมกับค่ายเทปทำธุรกิจแบ่งประโยชน์กัน แบบ win-win

 

                    ทีม งาน TLC ได้นำฎีกา 10579/51, 8220/53, 6380/53 ซึ่งเป็นคดี เกี่ยวกับ การเปิดเพลงในร้านอาหาร ถ้าไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรง ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของค่ายเทป มาลงไว้ เพื่อเผยแพร่ความรู้กฎหมายสู่ประชาชนครับ

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10579/2551

ป.วิ.อ. มาตรา 185
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธี พิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 

          โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดรู้ อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์... ความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงต้องเป็นการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น เพื่อหากำไร เท่า นั้น แต่ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องปรากฏแต่เพียงว่า จำเลยเปิดแผ่นเอ็มพีสามและซีดีเพลงให้ลูกค้าในร้านอาหารได้ร้องและฟังเพลง ของผู้เสียหาย 1 แผ่น เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ขาย อาหารและเครื่องดื่มของจำเลยแต่ไม่ปรากฏในคำฟ้องว่าจำเลยกระทำเพื่อหากำไร โดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ร้องและฟังเพลงโดยเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้า ในการเปิดเพลงดังกล่าวหรือเรียกเก็บรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่าง ใด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ตาม พ.ร.บ.จั้ดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณา คดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 185

________________________________ 

          โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4681517317076 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบของกลาง และสั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่ง เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์

          จำเลยให้การรับสารภาพ

          ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษายกฟ้อง ของกลางคืนให้แก่เจ้าของ

          โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

          ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์...” ความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงต้องเป็นการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น เพื่อหากำไร” เท่า นั้น แต่ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมานั้นปรากฏว่าจำเลยเปิดแผ่นเอ็มพี 3 และซีดีเพลงให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยได้ร้องและฟังเพลงของผู้เสีย หาย จำนวน 1 เพลง เพียง เพื่อประโยชน์ในทางการค้า” ขายอาหารและเครื่องดื่มของจำเลย ตามคำบรรยายฟ้อง ดังกล่าวไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ร้อง และฟังเพลง โดยเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลงดังกล่าว หรือเรียกเก็บรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าวซึ่งต้องเป็นการกระทำ เพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธี พิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์จึง ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

          พิพากษายืน.

( พรเพชร วิชิตชลชัย - พลรัตน์ ประทุมทาน - บุญรอด ตันประเสริฐ )