Blog categories

Latest posts

กรุณาคลิกที่ หมายเลขมาตรา เพื่อดูเนื้อหากฎหมายที่เกี่ยวข้อง

.

:: สรุปสาระสำคัญของการแก้กฎหมาย เรื่องค้ำประกัน และ จำนอง ::  

 

เพิ่มเติม – แก้ไข – ประประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) พ.ศ. 2557 และ 2558

 

แก้ไข

มาตรา 681 – หากจะให้ค้ำประกันหนี้ในอนาคตก็ทำได้ แต่ต้องระบุวัตถุประสงค์ด้วยว่าเป็นลักษณะหนี้ประเภทใด ในเรื่องใด ไม่ใช่ครอบจักรวาลหรือไม่ได้ระบุไว้เลย การค้ำประกันในลักษณะนี้ส่วนใหญ่ใช้กับค้ำประกันบุคคลเข้าทำงาน และบัญชีเดินสะพัด

 

เพิ่มเติม

มาตรา 681/1 – ข้อตกลงให้ผู้ค้ำประกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม หรือในฐานะลูกหนี้ร่วม ---> ตกเป็นโมฆะ คือใช้ไม่ได้เลย (ผู้ค้ำหลุดพ้นเลย)

 

มาตรา 685/1 – ข้อตกลงที่แตกต่างไปจาก มาตรา 681 วรรคหนึ่ง, วรรคสอง, วรรคสาม และ มาตรา 694 มาตรา 698 มาตรา 699 เป็นโมฆะ

(ดู มาตรา 681 ที่อธิบายไปแล้วข้างต้น)

 

แก้ไข

มาตรา 694 – ผู้ค้ำประกัน ยกข้อต่อสู้ของตนเองหรือของลูกหนี้ก็ได้ แต่ถ้าเจ้าหนี้ไปตกลงกันว่าผู้ค้ำประกันยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ไม่ได้ จะตกเป็นโมฆะเลย

 

มาตรา 698 – ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นเมื่อหนี้ของลูกหนี้ระงับไปไม่ว่าเหตุใด ๆ แต่ถ้าไปตกลงว่าหนี้ของลูกหนี้ระงับ แต่ของผู้ค้ำประกันไม่ระงับ อันนี้ใช้บังคับไม่ได้เลย

 

มาตรา 699 – การค้ำประกันหนี้ที่ต่อเนื่องกันไปหลายคราวไม่จำกัดนั้น ผู้ค้ำจะเลิกเมื่อใดก็ได้

แต่ถ้าไปตกลงว่าผู้ค้ำประกันบอกเลิกไม่ได้ หรือ ต้องรับผิดไปตลอด ---> ข้อตกลงนี้ใช้บังคับไม่ได้เลย

ซึ่งเมื่อก่อนบังคับกันได้ (ส่วนใหญ่เป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีของธนาคาร และ เกี่ยวกับค้ำประกันคนเข้าทำงาน)

 

มาตรา 686 – ต่อไปนี้ ถ้าลูกหนี้ผิดนัด จะฟ้องผู้ค้ำประกันต่อศาลทันทีไม่ได้แล้ว ต้องมีหนังสือส่งทวงถามส่งไปยังผู้ค้ำประกันก่อน ภายใน 60 วัน นับจากวันที่ลูกหนี้ผิดนัด หากไม่ส่งหนังสือไป หรือส่งแต่ว่าส่งเกินกว่า 60 วันไปแล้ว ผู้ค้ำฯไม่ต้องรับผิดในเรื่องดอกเบี้ย ค่าสินไหมต่าง ๆ ค่าโน่นค่านี่ ค่าทวงถาม ค่าอื่น ๆ ทั้งหมด แต่ว่าผู้ค้ำประกันก็ยังต้องรับผิดในต้นเงินของลูกหนี้อยู่ ไม่ใช่ว่าผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นไปทั้งหมดเลย และผู้ค้ำประกันก็ยังมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้ได้ตาม มาตรา 693 อยู่เหมือนเดิม

 

มาตรา 691 – ถ้าเจ้าหนี้ไปลดหนี้ให้ลูกหนี้ ต่อมาลูกหนี้ชำระไม่ครบ แล้วผู้ค้ำประกันไปชำระจนครบ หรือ ลูกหนี้ไม่ชำระเลยแล้วผู้ค้ำประกันไปชำระให้จนครบ แม้ว่าจะล่วงเลยกำหนดชำระแล้วก็ตาม ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากการค้ำประกัน

มาตรา 691 วรรคสอง – ถ้ามีข้อตกที่เพิ่มภาระแก่ผู้ค้ำฯ ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ

 

มาตรา 700 (อันนี้สำคัญมาก) – ถ้ามีกำหนดเวลาชำระหนี้เอาไว้แน่นอนแล้ว หากเจ้าหนี้ไปผ่อนเวลากับลูกหนี้ต่อไปอีก ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นเลย... ยกเว้นว่าผู้ค้ำประกันจะไปตกลงด้วยในเรื่องการผ่อนเวลา

มาตรา 700 วรรคสอง – การที่ผู้ค้ำประกันตกลงด้วยในเรื่องผ่อนเวลานั้น ต้องมาตกลงกันภายหลัง ไม่ใช่ตกลงกันก่อนที่หนี้จะถึงกำหนด ซึ่งก่อนแก้กฎหมายเจ้าหนี้ทำสัญญาตกลงกันก่อนได้ แต่แก้กฎหมายแล้วทำแบบนี้ไม่ได้แล้ว หากจะทำต้องได้รับความยินยอมจากผู้ค้ำประกันด้วย (แล้วผู้ค้ำฯโง่ คนไหนจะยอมล่ะ..จริงมั้ย)

 

เพิ่มเติม

มาตรา 714/1 – ถ้าไปตกลงให้แตกต่างกับ มาตรา 728, 729, 735 อันนี้เป็นโมฆะ (ดูรายละเอียดถัดไป)

 

แก้ไข

มาตรา 727 – นำมาบังคับกับ มาตรา 691, 697, 700, 701 ด้วย

 

เพิ่มเติม

มาตรา  727/1 (อันนี้สำคัญมากเป็นเรื่องใหม่) – หากเรานำทรัพย์มาค้ำประกันโดยการจำนองแก่เจ้าหนี้เพื่อค้ำประกันบุคคลอื่น ถ้ามีการบังคับจำนองหรือเอาจำนองหลุด เงินยังขาดเท่าใด เราไม่ต้องรับผิดเลย

ซึ่งเมื่อก่อน เราจะต้องรับผิดในส่วนที่ยังขาดอยู่ เช่น ติดหนี้ 1 ล้าน ยึดบ้านเราไปขายได้ 8 แสน เรายังรับผิดอีก 2 แสน แต่ต่อจากนี้ไป เราไม่ต้องรับผิดอีก 2 แสนเลย

และที่สำคัญกฎหมายระบุชัดลงไปว่า หากไประบุให้แตกต่างไปจาก มาตรา 727/1 วรรคแรก (คือระบุให้รับผิดในส่วนที่ยังขาดอยู่อีกจนครบ) ข้อตกลงนี้เป็นโมฆะ ซึ่งเมื่อก่อนผู้จำนองโดนข้อยกเว้นมาเป็นข้อสัญญาให้รับผิดตลอด แต่จากนี้ไปผู้จำนองจะถูกยึดทรัพย์ที่จำนอง แต่ไม่ต้องรับผิดเพิ่มอีกแล้ว

 

แก้ไข

มาตรา 728 – เมื่อก่อนต้องส่งหนังสือบังคับจำนองกำหนดเวลาพอสมควร แต่ปัจจุบันกฎหมายแก้ไขใหม่ว่า ต้องบอกกล่าวไม่น้อยกว่า 60 วัน

มาตรา 728 วรรคสอง – แต่ถ้ามีผู้อื่นนำทรัพย์มาจำนอง เจ้าหนี้ต้องแจ้งไปยังผู้จำนองด้วยภายใน 15 วัน นับจากส่งหนังสือให้ลูกหนี้ทราบ ถ้าเจ้าหนี้ไม่แจ้ง หรือเกินกำหนดแล้ว ผู้จำนองหลุดพ้นดอกเบี้ย ค่าสินไหมต่าง ๆ นับจากวันที่พ้นจากระยะเวลา 15 วัน คือถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ไม่แจ้งหรือแจ้งเกินกำหนด หลังจากพ้น 15 วันนับจากลูกหนี้ได้หนังสือตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้จำนองไม่ต้องรับผิดเรื่องดอกเบี้ย และค่าอื่น ๆ อีกเลย

 

มาตรา 729 – ถ้าจะเอาจำนองหลุดต้องได้ความว่า

ลูกหนี้ขาดส่งดอกเบี้ย 5 ปี และ ราคาทรัพย์สินที่จำนองนั้นมีราคาน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ

 

เพิ่มเติม

มาตรา 729/1 (อันนี้เพิ่มความสะดวกโดยไม่ต้องฟ้องศาล)

กฎหมายให้สิทธิผู้จำนองมีหนังสือไปยังผู้รับจำนองเพื่อให้เอาทรัพย์ของตนเองที่จำนองนั้นออกขายทอดตลาดได้เลยโดยไม่ต้องฟ้องศาล โดยที่ผู้รับจำนองเมื่อได้รับหนังสือแล้ว ต้องดำเนินการขายทอดตลาดภายใน 1 ปีนับจากวันที่ได้รับหนังสือ

มาตรา 729/1 วรรคสอง – ถ้าผู้รับจำนองไม่ดำเนินการขายทอดตลาดภายใน 1 ปี ตามมาตรา 729/1 วรรคหนึ่ง ผู้จำนองหลุดพ้นในเรื่องดอกเบี้ย ค่าสินไหม และค่าอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นหลัง 1 ปีไปแล้ว

มาตรา 729/1 วรรคท้าย – กำหนดลงไปให้ชัดอีกว่า ถ้าเป็นกรณีที่ผู้จำนองไม่ใช่ลูกหนี้ แต่นำทรัพย์มาจำนองเป็นประกันบุคคลอื่น ตามมาตรา 727/1 ก็จะไปเรียกเก็บในส่วนที่ยังขาดกับผู้จำนองไม่ได้เลย

 

แก้ไข

มาตรา 735 – การบังคับจำนองกับผู้รับโอนทรัพย์ที่จำนอง ก็ต้องบอกล่วงหน้าเป็นหนังสือไม่น้อยกว่า 60 วันด้วย

 

มาตรา 737 – ผู้รับโอนจะไถ่ถอนจำนองเมื่อใดก็ได้ แต่ถ้าผู้รับจำนองบอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว ผู้รับโอนต้องไถ่ถอนภายใน 60 วัน (แต่กฎหมายไม่ได้กล่าวว่า ถ้าไม่ไถ่ภายใน 60 วัน อะไรจะเกิดขึ้น...)

 

มาตรา 744 – กำหนดว่าจำนองระงับด้วยเหตุใดบ้าง

 

บทเฉพาะกาล

ไม่กระทบกับสัญญาที่ทำไว้ก่อนแก้กฎหมาย