Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna...
เว็บ TLC เผยแพร่บทความเพื่อเป็นความรู้แก่ประชาชน
และพร้อมที่จะให้ท่านแคปหน้าจอไปใช้ได้
แต่กรุณาให้เครดิตว่ามาจากเว็บ Thai Law Consult
มิฉะนั้น ท่านอาจจะมีความผิดฐานละเมิดงาน "วรรณกรรม" อันมีลิขสิทธิ์ได้
|
|
|
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna...
L
สวัสดีค่ะก่อนอื่นดิฉันขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อนางสาวจุฬาลักษณ์ พูลสวัสดิ์ค่ะ ชื่อเล่นว่าปาล์ม จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ก่อนเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทโดยได้รับทุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้ชื่อทุน ว่า "EIFFEL" ทางด้านกฎหมายมหาชน เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญจากมหาวิทยาลัย Aix-Marseille III, Aix-en-Provence ประเทศฝรั่งเศส และจบทางด้านประกาศนียบัตรพิเศษกฎหมายเปรียบเทียบระหว่างประเทศจาก มหาวิทยาลัยเดียวกันนี้ในปีพุทธศักราช 2553 โดยได้คะแนนระดับเกียรตินิยมทั้งสองปริญญาบัตร หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศดิฉันจึงเข้าศึกษาต่อในระดับเนติบัณฑิตและ สำเร็จเป็นเนติบัณฑิตในปีพุทธศักราช 2554
การเป็นนักกฎหมายดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวดิฉันเหลือเกินเพราะดิฉัน มีความถนัดและมีความชอบทางด้านภาษา ไม่วาจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศสเนื่องด้วยดิฉันได้เลือกเรียนใน โปรแกรมศิลป์-ฝรั่งเศส ในระดับมัธยมศึกษาและมีความตั้งใจเสมอมาที่จะเข้าศึกษาต่อในคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่แล้วอาจจะเป็นลิขิตที่ทำให้ชีวิตของดิฉันพลิกผันมาเรียนกฎหมายเมื่อคุณ พ่อของดิฉันบอกว่าคนเราเกิดมาต้องหาโอกาสตอบแทนคุณแผ่นดิน และวิชากฎหมายจะทำให้เรามีโอกาสในการช่วยเหลือคนอื่นได้มาก และเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้อย่างแท้จริง การตัดสินใจมาเรียนกฎหมายของดิฉันจึงเกิดจากการจุดประกายของคุณพ่อซึ่งเป็น ต้นแบบที่ดีในชีวิตของดิฉันเสมอมา และเป้าหมายหนึ่งเดียวที่ดิฉันมีคือ ต้องเป็นผู้พิพากษาในชีวิตนี้ให้ได้
เมื่อการเอนทรานซ์มาถึงดิฉันจึงเลือกที่จะเข้าศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้เลือกไปเพียงคณะเดียว และปรากฏว่าดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่สอบติดที่คณะนี้ ยังความปลาบปลื้มใจให้แก่คุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก
การสอบเอนทรานซ์ที่ว่ายากนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความยากในการเรียนกฎหมาย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำหรับดิฉันแล้วการเรียนกฎหมายช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นเนื่องด้วยมีความ ถนัดทางด้านการใช้ภาษาทางด้างวรรณศิลป์หาใช่การเขียนตอบกฎหมายที่ต้องใช้ ทั้งหลักและเหตุผล ทำให้ในช่วงแรกของการศึกษาดิฉันมีความเครียดและประสบกับปัญหาสุขภาพมากมายจน มีหลายครั้งที่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรามาเรียนกฎหมายเพื่อใคร หรือเพื่ออะไร แต่คุณพ่อและคุณแม่ของดิฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้ดิฉันเสมอโดยท่านสอนให้ดิฉัน คิดนอกเหนือไปจากตัวเอง ให้มานะพยายามในการเอาชนะทั้งตัวเองและวิชากฎหมายให้ได้ ทั้งให้กำลังใจทุกอย่างเพื่อให้ดิฉันสามารถผ่านวันเวลาที่ยากและเหนื่อยกับ การเรียนมาได้
การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้นหล่อหลอมให้ดิฉันเป็นนักกฎหมาย วันแล้ววันเล่าจนความยากในตอนแรกและความเครียดทั้งหมดค่อยๆลดน้อยตามวันเวลา ที่ดิฉันได้ซึมซับจิตวิญญาณของกฎหมายและความเป็นนักกฎหมายที่ดี อาจารย์ผู้สอนในรั้วมหาวิยาลัยแห่งนี้เป็นต้นแบบแห่งการรับใช้สังคมที่เป็น ภาพประทับในใจของดิฉันตามวันเวลาที่ได้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ดิฉันมาค้นพบตัวเองว่าดิฉันชอบและถนัดทางด้านกฎหมายมหาชนในปีที่3 ของการศึกษาในรั้วธรรมศาสตร์ ดิฉันจึงเลือกเรียนกฎหมายมหาชนเป็นวิชาโทและจบมา โดยได้รับประกาศนียบัตรพิเศษทางด้านกฎหมายมหาชน เมื่อสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ใกล้จะจบลง ดิฉันมีทางเดินให้เลือกที่นำพามาสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดหมายมาก่อน
เมื่อใกล้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทางสถานทูตฝรั่งเศสได้มีการ จัดประชาสัมพันธ์ทุนรัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้ชื่อทุนว่า "ไอเฟล" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รายละเอียดของทุนดังกล่าวคือ การให้ทุนแก่นักเรียนที่ มีผลการเรียนดีเด่นจากหลายประเทศทั่วโลกให้เข้าทำการศึกษาต่อทางด้านกฎหมาย ในมหาวิทยาลัยกฎหมายที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศสโดยจะทำการคัดเลือกนัก ศึกษาจากผลการศึกษา รายงานแผนความคิดหรือเค้าโครงวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการจะได้รับทุนดังกล่าวต้องมีความสามารถในการใช้ภาษา อังกฤษในระดับที่ดีเยี่ยม และหากมีความรู้ภาษาฝรั่งเศสด้วยจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
ขั้นตอนการพิจารณาทุน นักศึกษาที่ยื่น Profile เพื่อขอรับทุนไอเฟลจะต้องผ่านการคัดเลือกจากสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และหากผ่านการคัดเลือกจากด่านนี้แล้ว โปรไฟล์จะถูกส่งไปยังมหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศสเพื่อรับการคัดเลือกอีก ครั้งจากบรรดาโปรเฟสเซอร์ของมหาวิทยาลัยนั้นว่าจะรับนักศึกษาที่สมัครเข้า รับทุนเข้าศึกษาต่อหรือไม่ หากนักศึกษาคนใดที่ได้รับเลือกจากทางมหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศสให้เข้า ศึกษาต่อ โปรไฟล์ของนักศึกษาคนดังกล่าวก็จะถูกส่งไปยังคณะกรรมการพิจารณาทุนไอเฟลซึ่ง จะทำการคัดเลือกนักศึกษาที่มีผลการเรียนที่ดีที่สุดจากหลายพันคนทั่วโลกให้ เหลือเพียงไม่กี่คน เพื่อจะมอบทุนรัฐบาลฝรั่งเศสให้กับนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือก
เนื่องจากดิฉันมีความคิดว่าการเรียนกฎหมายนั้นหาใช่ว่าการรู้กฎหมาย ไทยอย่างเดียวจะเพียงพอไม่ การรู้กฎหมายต่างประเทศด้วยคงช่วยเราในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้มากอีก ทางหนึ่ง ตามสุภาษิตโบราณที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งก็ย่อมชนะร้อยครั้ง ดิฉันจึงตัดสินใจสมัครทุน ไอเฟล เพื่อที่จะไปทำการศึกษาต่อในด้านกฎหมายมหาชนที่ตัวเองถนัด โดยดิฉันเลือกมหาวิทยาลัย AIX-Marseille III
ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเพราะดิฉันทราบมาว่ามหาวิทยาลัย แห่งนี้มีอาจารย์ทางด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส อยู่นั่นก็คือ ท่านโปรเฟสเซอร์ LOUIS Favoreu
และก็คงเป็นลิขิตอีกครั้งที่ดิฉันได้รับการคัดเลือกให้ได้รับทุนจากรัฐบาล ฝรั่งเศสให้ไปทำการศึกษาต่อในระดับปริญญาโททางด้านกฎหมายมหาชน โดยดิฉันเป็นนักศึกษาเพียงคนเดียวที่ได้รับคัดเลือกจากนักศึกษา 3000 คนทั่วโลกให้ได้รับทุนดังกล่าวซึ่งยังความปลาบปลื้มใจให้แก่ครอบครัวอย่าง มาก ชีวิตหลังจากการได้รับทุนจึงเป็นชีวิตที่ต้องไปอยู่เมืองนอกคนเดียวและการ ผจญโลกในต่างแดนก็เริ่มขึ้น
การเรียนกฎหมายในประเทศฝรั่งเศสนั้นแตกต่างกับการเรียนกฎหมายในประเทศไทย โดยสิ้นเชิงเพราะการเรียนกฎหมายที่ฝรั่งเศสเน้นในด้านการมีส่วนร่วมของนัก ศึกษา การคิดวิเคราะห์และการวิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งกระบวนการเรียนการสอนทั้งหมดนี้สร้างความวิตกกังวลกับดิฉันไม่น้อยเพราะ ทุกอย่างล้วนใหม่สำหรับดิฉันทั้งสิ้นประกอบกับอุปสรรคด้านภาษาที่มีความซับ ซ้อนและแตกต่างจากภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก แต่โชคดีเหลือเกินที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนได้คอยให้ความช่วยเหลือแนะนำดิฉัน เป็นอย่างดี ประกอบกับดิฉันได้เจอโปรเฟสเซอร์ที่ใจดีและเข้าใจคนไทยตัวเล็กๆอย่างดิฉันทำ ให้วันคืนที่ดูเหมือนเต็มไปด้วยปัญหาอุปสรรคกลับกลายเป็นวันคืนที่เปี่ยม ด้วยความสุข รอยยิ้ม และความทรงจำ
อย่างไรก็ตามเมื่อได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศสแล้ว ดิฉันก็มีความคิดว่าเราควรจะเรียนเพิ่มเติมอีกเพราะการเรียนปริญญาโทใบแรก นั้นเป็นการเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น ดิฉันจึงสมัครเรียนประกาศนียบัตรใบที่สองซึ่งทำการเรียนการสอนเป็นภาษา ฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษด้วย ประกาศนียบัตรใบที่สองนี้มีชื่อว่า "กฎหมายเปรียบเทียบระหว่างประเทศ" ซึ่งจะมีโปรเฟสเซอร์จากทั่วโลกสลับสับเปลี่ยบกันมาสอน ซึ่งทำให้เรามองได้กว้างและลึกอย่างแท้จริง
สองปีในประเทศฝรั่งเศสอาจจบลงแล้วพร้อมกับ Master degree อีกสองใบ แต่ปริญญาชีวิตกำลังเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อดิฉันต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าจะ เรียนต่อ ดอกเตอร์ หรือกลับมาทำความฝันที่อยากเป็นผู้พิพากษา ให้สำเร็จ การตัดสินใจครั้งนี้อาจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตไปตลอดกาล แต่แล้วเสียงหนึ่งที่ดังชัดมาในชีวิตเสมอก็กลับมาก้องดังอีกครั้ง คือ ต้องกลับเมืองไทย เพื่อไปรับใช้ประชาชน
ดิฉันเดินทางกลับมาประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นเนติบัณฑิต ในปีเดียวให้ได้ จึงได้ลงทะเบียนเรียนเนติบัณฑิตในทันทีที่ลงจากเครื่องบินในเดือนสิงหาคม พุทธศักราช 2553 ซึ่งขณะนั้นเหลือเวลาในการเตรียมตัวสอบเนติบัณฑิตเพียงหนึ่งเดือนเพราะจะจัด สอบในเดือนกันยายน ในกลุ่มวิชากฎหมายแพ่งและอาญา ดิฉันเห็นคำบรรยายที่มากมายและเวลาที่เหลืออยู่ก็เกิดความท้อแท้อีกครั้ง เพราะการไปเรียนต่างประเทศทำให้ร้างจากกฎหมายไทยไปเสียเนิ่นนาน ทั้งกฎหมายก็ได้มีการแก้ไขชำระใหม่หลายบทมาตราโดยเฉพาะกฎหมายอาญา ดิฉันทำอะไรไม่ถูกเลยในตอนแรกจึงได้แต่นั่งสมาธิเพื่อเรียกสติและกำลังใจ กลับคืนมา
เมื่อดิฉันตั้งสติได้แล้วจึงตัดสินใจที่จะสอบในกลุ่มวิชากฎหมายอาญาเพียง กลุ่มวิชาเดียว จึงเริ่มทำการดูตัวบท ท่องมาตรา และอ่านคำบรรยายของทุกอาจารย์เพื่อดูว่าอาจารย์แต่ละท่านได้บรรยายในเรื่อง ใดบ้าง มีขอบเขตเนื้อหาเพียงใด และพยายามดูว่าอาจารย์เน้นจุดใด เมือวันสอบมาถึงดิฉันก็สวดภาวนาตามศาสนาที่ดิฉันนับถือก่อนการเข้าห้องสอบ และคิดว่าเราต้องทำให้ได้ ปรากฏว่าดิฉันสอบผ่านทันทีในการสอบครั้งนี้ทำให้มีขวัญและกำลังใจขึ้นมามาก สำหรับการสอบในกลุ่มกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความอาญา รวมทั้งกลุ่มกฎหมายแพ่ง ดิฉันก็ใช้หลักการอย่างเดียวกัน นั้นก็คือการดูตัวบทเป็นหลัก ท่องจำให้ได้ และอ่านคำบรรยายเพื่อที่จะรู้ในสิ่งที่อาจารย์ได้บรรยายมาตลอดภาคการศึกษา อันที่จริงแล้วดิฉันเข้าเรียนน้อยมาก เพราะหลังจากกลับจากต่างประเทศแล้วดิฉันประสบกับปัญหาโรคภูมิแพ้อากาศ ซึ่งก่อปัญหาให้ดิฉันไม่น้อย ดิฉันจึงต้องกลับมาอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัดและรับคำบรรยายทางไปรษณีย์
ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาที่สำนักอบรมเนติบัณฑิตยสภาดิฉันก็ไม่ได้ทำงานใดๆ เพราะต้องการเรียนให้จบภายในแผนที่วางไว้ และแล้ววันแห่งความสำเร็จก็มาถึงเมื่อดิฉันได้รับพระราชทานประกาศนียบัตร เนติบัณฑิตรุ่นที่ 64 เป็นวันที่ดิฉันภูมิใจมากอีกวันหนึ่ง
ขณะนี้ดิฉันกำลังเตรียมตัวสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาสนามใหญ่ที่ใกล้จะถึง คงเป็นช่วงเวลาที่ดิฉันต้องมุมานะพยายามอีกครั้ง เพื่อจะนำวิชาชีพกฎหมายออกไปรับใช้สังคมตามที่ดิฉันตั้งใจมาตลอดในชีวิตของ การเรียนกฎหมาย
ความสำเร็จทุกอย่างในชีวิตคงเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดคุณพ่อคุณแม่ที่รักและคอยดูแลทุกก้าวย่างของชีวิต
คุณครูทุกท่านผู้เป็นบูรพคณาจารย์ที่ไม่เพียงแต่อบรมความรู้แต่ได้ปลูกคุณธรรมลงในใจของดิฉันด้วย
เพื่อนทุกคนที่รักและเชื่อมั่นในตัวดิฉันเสมอมา
กับทั้งสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ดิฉันเคารพนับถือ
สุดท้ายนี้ดิฉันอยากเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ผ่านมาและได้อ่านเรื่อง ราวทุกอย่างในชีวิตของดิฉันให้สู้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อธำรงไว้ซึ่ง คุณธรรมในการเป็นนักกฎหมายที่ดี รักษาประโยชน์ส่วนรวมให้มากกว่าประโยชน์ส่วนตน และอยากให้ทุกท่านตระหนักว่าหากสังคมเป็นสุขเราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคมก็ จะเป็นสุขด้วย
หากท่านผู้ใดมีความสนใจที่จะสอบถามดิฉันในเรื่องใดๆสามารถติดต่อได้ที่ คุณพงษ์รัตน์และหากท่านผู้ใดที่สนใจรายละเอียดของทุนไอเฟลสามารถเข้าไปดูราย ละเอียดได้ที่ www.egide.asso.fr/eiffel
และบทความของดิฉันเกี่ยวกับชีวิตในประเทศฝรั่งเศส www.campasfrace.org